การทำน้ำหมักจุลินทรีย์จากน้ำซาวข้าวกับเปลือกไข่
แคลเซียมเป็นธาตุหลักที่ใช้ในการสร้างผนังเซลล์ช่วยในการแบ่งเซลล์ของพืช ช่วยจับกับกรดอินทรีย์ เพื่อกำจัดสารที่เป็นอันตรายกับพืช ช่วยการเจริญเติบโตของพืชให้เป็นไปอย่างปกติ ช่วยส่งเสริมการดูดฟอสฟอรัส และช่วยในการสะสมธาตุอาหารของพืช ถ้าขาดแคลเซียม โปรโตพลาสซึมในเซลล์พืชจะไม่สามารถคงรูปเป็นปกติได้ รากอ่อนแอ ใบแห้ง และมีจุดสีน้ำตาล ถ้าเป็นถั่วจะไม่มีเปลือกหุ้มเมล็ด แคลเซียมมีมากในเปลือกไข่ หอยนางรม เปลือกปูและกุ้ง แต่เปลือกไข่มีคุณภาพดีที่สุด แคลเซียมในเปลือกไข่ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที ต้องทำให้อยู่ในรูปสารละลายก่อน แคลเซียมเปลือกไข่ ยังมีประโยชน์ในการเลี้ยงสุกรคือช่วยในการเสริมสร้างโครงร่างของสุกร บำรุงกระดูกและฟันให้มีความแข็งแรง
วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้
น้ำซาวข้าว (จากข้าวเหนียวดีที่สุด)
เปลือกไข่ตากแห้ง
ขวดโหลปากกว้างทรงสูงแก้วหรือพลาสติก
กระดาษบรุ๊ฟ
เชือกฟาง
ขวดพลาสติกชนิดฝามิดเป็นเกลียว
อัตราส่วน : น้ำซาวข้าว 10 ลิตร ต่อเปลือกไข่ตากแห้ง 1 กิโลกรัม
ขั้นตอนและวิธีการทำ
1. นำเปลือกไข่ตากแดดให้แห้งประมาณ 2-3 แดด2. ใช้มือบี้เปลือกไข่ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แต่ไม่เป็นผง
3. นำน้ำซาวข้าว 10 ลิตรใส่ลงไปในขวดโหล
4. นำเปลือกไข่ที่บี้ละเอียดแล้ว 1 กิโลกรัมโรยลงไปช้า ๆ ให้ทั่วทั้งขวดโหล
5. หลังโรยลงไปแล้วเปลือกไข่ส่วนหนึ่งจะค่อย ๆ จมลงไปยังก้นขวดโหล
6. ปิดฝาขวดโหลด้วยกระดาษบรุ๊ฟและมัดด้วยเชือกฟาง หมักทิ้งไว้ 8-12 วัน
7. หลังครบกำหนดรินส่วนที่เป็นน้ำออกใส่ขวดพลาสติกให้ได้ปริมาณ 2 ใน 3 ของขวดแล้วปิดฝาขวดให้สนิท ทิ้งไว้ในร่มและนำไปใช้
อัตราการใช้ น้ำหมักจากน้ำซาวข้าวกับเปลือกไข่ 3 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 10 ลิตร
|
ข้อบ่งใช้
1. ใช้รดพื้นคอกสัตว์ เร่งการทำงานของจุลินทรีย์ เสริมสร้างการทำงานเชื้อราขาว
2. ผสมน้ำดื่มให้สัตว์เพื่อเพิ่มแคลเซียมในน้ำ
3. ผสมในอาหารสัตว์เพื่อเพิ่มแคลเซียมในอาหาร
4. พ่นเล้าไก่ไข่จะช่วยทำให้ไก่ไม่ผลัดขนทำให้จำนวนวันในการออกไข่นานขึ้น
5. เศษที่เหลือจากการหมักสามารถนำไปให้สุกรกินได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น